ประวัติสามเณราลัยแม่พระนิรมล โดยสังเขป

      สามเณราลัยแม่พระนิรมล ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1930 โดย คุณพ่อ (พระสังฆราช) กาเยตาโน ปาซอตตี หัวหน้าคณะธรรมทูตซาเลเซียน เพื่อจะได้เป็นสถานที่สำหรับฝึกอบรมเยาวชนชายเพื่อเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์พื้นเมืองของมิสซังราชบุรี ซึ่งเป็นมิสซังใหม่ที่แยกเขตปกครองออกมาจากมิสซังกรุงเทพฯ โดยมีเณร 2 คนแรกในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และต่อมาในวันที่ 20 มีนาคม มีเณรมาสมัครอีก 6 คน ปีแรกจึงมีเณรทั้งหมด 8 คน คุณพ่อกาเยตาโนได้ฝากสามเณราลัยใหม่แห่งนี้ไว้ในความอุปถัมภ์ของ "พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล" จึงได้ตั้งชื่อว่า "สามเณราลัยแม่พระนิรมล" (SEMINARIUM MARIAE IMMACULATAE)

bs gt pasotti

พระสังฆราชกาเยตาโน ปาซอตตี
ผู้สถาปนาสามเณราลัย

     สามเณราลัยแม่พระนิรมลหลังแรกนั้นเป็นบ้านซึ่งคุณพ่อกาเยตาโน ปาซอตตี ได้เช่าสัตบุรุษเพื่อเป็นสามเณราลัย ตั้งอยู่ริมน้ำหน้าวัดบางนกแขวก (อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก ในปัจจุบัน) ต่อมาเมื่อสามเณราลัยพระหฤทัย บางช้าง ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกอบรมสามเณรของมิสซังกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดบางนกแขวกมาเป็นเวลานาน ได้ย้ายสามเณรไปอยู่ที่สามเณราลัยพระหฤทัย ศรีราชา ดังนั้นเมื่อสามเณราลัยแห่งนี้ว่างลง คณะซาเลเซียนจึงได้ย้ายสามเณรของคณะที่อยู่ฝั่งวัดบางนกแขวกเข้าไปอยู่แทน และสามเณรพื้นเมืองก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่แทนที่ของสามเณรซาเลเซียน และในที่สุดเมื่อคณะซาเลเซียนได้ย้ายสามเณรออกจากสามเณราลัยที่บางนกแขวก สามเณรพื้นเมืองก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่แทนและใช้ชื่อว่า สามเณราลัยแม่พระนิรมล บางนกแขวก

 

MISBangNokKhwaek resize

สามเณราลัยพระหฤทัย บางช้าง ของมิสซังกรุงเทพฯ 

ซึ่งต่อมาเป็นสามเณราลัยแม่พระนิรมล บางนกแขวก ของมิสซังราชบุรี (ค.ศ. 1930 - 1959)


     หลังจากที่ พระสังฆราชเปโตร คาเร็ตโต ได้รับตำแหน่งเป็นประมุขปกครองมิสซังราชบุรีสืบต่อจากพระสังฆราชปาซอตตี ฯพณฯ ท่านเห็นว่าจังหวัดราชบุรีมีความสะดวกในเรื่องการคมนาคมมากกว่า จึงได้ย้ายศูนย์มิสซังจากบางนกแขวกมาตั้งอยู่ที่เมืองราชบุรี และได้สร้างโรงเรียนดรุณาราชบุรี ซึ่งเปิดทำการในปี ค.ศ. 1957 และพร้อมกันนี้ก็ได้สร้างสามเณราลัยใหม่ด้วย ซึ่งเปิดทำการในปี ค.ศ. 1959 และได้ย้ายสามเณรทั้งหมดจากบางนกแขวกมาอยู่ในสามเณราลัยใหม่ที่ราชบุรี จึงเป็นการปิดหน้าประวัติศาสตร์ของ สามเณราลัยแม่พระนิรมล ที่บางนกแขวกลง หลังจากที่ได้เป็นสถานที่ฝึกอบรมสามเณรมาเป็นเวลาถึง 29 ปี สามเณราลัยแม่พระนิรมล ราชบุรี ได้รับการเสกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1959 โดยพระสังฆราชเปโตร คาเร็ตโต มีคุณพ่อซิลวีโอ โปรเวรา เป็นอธิการคนแรก

 bs pt luigi carretto

 พระสังฆราชเปโตร คาเร็ตโต
ผู้พัฒนาสามเณราลัย
(ย้ายจาก บางนกแขวก มาสู่ ราชบุรี)

MIS2014

 สามเณราลัยแม่พระนิรมล ราชบุรี (ค.ศ. 1959 - ปัจจุบัน)

 

 

 

ตราของสามเณราลัยแม่พระนิรมล ราชบุรี

 

 ตราสามเณราลัย S  ตราประทับสามเณราลัย    

 

ความหมาย

 

พระคัมภีร์ หมายถึง สามเณราลัยต้องมีพระวาจาเป็นรากฐานในการดำเนินงาน และสามเณรแต่ละคนจะต้องได้รับการหล่อเลี้ยงชีวิตสามเณรด้วยพระวาจา

 

ศีลมหาสนิท หมายถึง สามเณราลัยจะต้องมีศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน และสามเณรแต่ละคนจะต้องมีศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลางของชีวิตสามเณร

 

ดอกซ่อนกลิ่น หมายถึง สามเณรต้องมีคุณธรรมตามคำสอนของพระศาสนจักร ได้แก่ คุณธรรมหลัก 4 ประการ (ดอกซ่อนกลิ่น 4 ดอก) และ คุณธรรมทางเทววิทยา 3 ประการ (ดอกซอนกลิ่น 3 ดอก) 

 

นกพิราบ หมายถึง พระจิตเจ้า ซึ่งเป็นผู้ประทานพระพรจากพระเจ้าให้แก่การดำเนินงานของสามเณราลัยและแก่สามเณรแต่ละคนในการแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับกระแสเรียกของตน

 

อาร์มสีขาว-ฟ้า หมายถึง พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล ผู้เป็นองค์อุปถัมภ์ของสามเณราลัยและสามเณรแต่ละคน 

 

คติพจน์   Virtus et Sapientia (คุณธรรมและปรีชาญาณ)

     Virtus  หมายถึง คุณธรรมตามคำสอนของพระศาสนจักร ซึ่งสามเณรควรมี โดยแบ่งเป็น คุณธรรมหลัก (Cardinal virtues) 4 ประการ สำหรับสามเณรชั้น ม.ต้น ได้แก่ ความยุติธรรม (justice) ความเข้มแข็งอดทน (fortitude) ความรอบคอบ (prudence) และความมัธยัสถ์/พอประมาณ (temperance)   และคุณธรรมทางเทววิทยา (Theological virtues) 3 ประการ สำหรับสามเณรชั้น ม.ปลาย ได้แก่ ความเชื่อ (faith) ความหวัง (hope) และความรัก (charity)

      Sapientia หมายถึง ปรีชาญาณ ซึ่งสามเณรควรมี โดยแบ่งเป็น ความฉลาดทางสติปัญญา (Intelligent Quotient: IQ) และความฉลาดทางฝ่ายโลกที่สามเณรพึงมีเพื่อการดำเนินชีวิตในท่ามกลางโลก และที่สำคัญคือความฉลาดทางด้านจิตวิญญาณ (Spiritual Quotient: SQ) ในการที่จะเป็นสงฆ์ผู้ร่วมงานของพระคริสตเจ้าในภายภาคหน้า

 

“สามเณรและสามเณราลัยแม่พระนิรมล

ได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระวาจา

มีศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลาง

ภายใต้ความคุ้มครองของพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล

และการทรงนำของพระจิตเจ้า

โดยมุ่งให้สามเณรได้รับการอบรมให้เป็นผู้มีคุณธรรมและปรีชาญาณ

เพื่อเป็นสงฆ์ผู้ร่วมงานของพระคริสตเจ้า”