อธิการ คุณพ่อสุรพล เนื้อจีน
1977-19782

        คุณพ่อเป็นผู้ช่วยของคุณพ่อสมกิจมาก่อน หลังจากที่รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์และเมื่อคุณพ่อสมกิจต้องไปรับตำแหน่งหน้าที่ใหม่ คุณพ่อก็ได้รับหน้าที่ในตำแหน่งอธิการต่อมา
        คุณพ่อเป็นพระสงฆ์หนุ่มเข้ากับพวกเณรได้ดี เพราะคุณพ่อรู้จักพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว คุณพ่อมีบุคลิกลักษณะ ‘พูดน้อย ต่อยหนัก’ (คำที่คุณพ่อมักใช้เสมอ) บุคลิกเช่นนี้ทำให้เณรใหม่ ๆ เมื่อจะต้องไปพบคุณพ่อหรือขออนุญาตอะไรสักอย่าง จะมีความรู้สึกล้า ๆ กลัว ๆ ยิ่งท่านใช้เวลานานกว่าจะให้คำตอบ ยิ่งทำให้ใจฝ่อมากขึ้น แต่ท่านก็ใจดีไม่ปฏิเสธคำขอจากเณรเลย คุณพ่อเป็นนักกีฬา สามารถลงเล่นกีฬากับเณรได้ทุกประเภท หลายครั้งคุณพ่อเจ็บจากการปะทะกับพวกเณร แต่ก็ไม่เคยถือสาหรือโกรธเณรที่เล่นรุนแรงและไม่ค่อยระวังกับท่าน คุณพ่อยังเป็นนักเขียนและผู้ให้การอบรมที่มีวาทะคมคาย สามารถเก็บเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาถ่ายทอดให้เณรฟังอย่างน่าสนใจ บทความที่ท่านเขียนลงใน ‘วันนี้ที่บ้านเณร’ เป็นที่ติดอกติดใจผู้อ่านตลอดมา

         ในช่วง 2 ปีแรกที่คุณพ่อเป็นอธิการ ไม่มีผู้ช่วยเลย เณรรุ่นพี่จึงรับหน้าที่ดูแลรุ่นน้องโดยปริยาย ภายหลังจึงได้มีบราเดอร์เณรใหญ่ที่จบชั้นปรัชญามาช่วยดูแลเณรเล็ก และต่อมาจึงมีพระสงฆ์มาช่วยคุณพ่อในมัยหลัง อย่างไรก็ดี แม้จะต้องรับภาระหนักมาก แต่คุณพ่อก็สามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างให้กับบ้านเณร ที่ฮือฮามากคือ สร้างวงดนตรีสามารเณร ‘ดิ อินโนเซนท์’ และออกเทปเพลงศักดิ์สิทธิ์เพื่อพระองค์ถึง 5 ชุด และเพลงแม่พระ เพลงสร้างสรรค์อื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

         ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ทางบ้านเณรมีปัญหาในเรื่องการเรียนต่อของเณรที่จบชั้น ม.ศ.3 เนื่องจากทางโรงเรียนยุบชั้น ม.ศ.4-5 อธิการสมัยนั้นจึงแก้ปัญหาด้วยการส่งเณรไปเรียนที่โรงเรียนรัฐบาล ซึ่งต่อมาก็มีปัญหาเรื่องตารางเวลาและการอบรมในบ้านเณร จึงได้แก้ปัญหาด้วยการส่งไปฝากเรียนที่บ้านเณรยอแซฟ ซึ่งก็ทำให้ขาดความสัมพันธ์กับบ้านเณรไป

          คุณพ่อจึงแก้ปัญหาให้เณรเรียนแผนกพณิชยการซึ่งเปิดใหม่และปีแรกใช้สถานที่บ้านเณรนี้เองเป็นโรงเรียน ในสมัยของคุณพ่อมีสามเณรเชียงใหม่มาร่วมเรียนด้วย และบัดนี้ ลูกศิษย์ของคุณพ่อได้บวชเป็นพระสงฆ์ทำงานในสังฆมณฑลเชียงใหม่หลายองค์

          คุณพ่อได้ริเริ่ม ‘วันผู้ปกครองสามเณร’ ทำให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจดีมากขึ้น ถึงบทบาทหน้าที่ของตนและร่วมมือกับบ้านเณรในการอบรมเณร ดังคำขวัญที่คุณพ่อให้ไว้ว่า ‘ครอบครัวดีเป็นพ่อเกิดกระแสเรียก’ นอกนั้น คุณพ่อยังพยายามประชาสัมพันธ์บ้านเณรในทุก ๆ ด้าน เพื่อบ้านเณรจะได้เป็นของสัตบุรุษทุกคน และสัตบุรุษมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือบ้านเณร

          ตลอด 8 ปี ที่คุณพ่อทำงานในบ้านเณร ในฐานะพ่อศึกษา 2 ปี และอธิการ 6 ปี ได้ทำให้บ้านเณรดำเนินไปด้วยดีในทุก ๆ ด้าน มีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นับว่าคุณพ่อเป็นปูชนียบุคคลหนึ่งของบ้านเณรราชบุรี